Vitamin K: The Forgotten Nutrient That Keeps You Strong and Protected

วิตามินเค: สารอาหารที่ถูกลืมที่ช่วยให้คุณแข็งแรงและได้รับการปกป้อง


วิตามินเคเป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่ามีบทบาทในการแข็งตัวของเลือด แต่งานวิจัยล่าสุดเผยให้เห็นถึงบทบาทที่ซับซ้อนและสำคัญยิ่งกว่านั้นต่อสุขภาพของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบ K2 วิตามินชนิดนี้มีส่วนช่วยในการรักษากระดูกให้แข็งแรง หลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่น และแคลเซียมในร่างกายให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม วิตามินเคเป็นสารอาหารที่คนส่วนใหญ่เคยได้ยิน แต่มีน้อยคนนักที่จะได้รับอย่างเพียงพอ และผลที่ตามมาอาจมองไม่เห็นจนกว่าจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บ

วิตามินเคไม่ใช่สารเดี่ยว แต่เป็นกลุ่มของสารประกอบที่ละลายในไขมัน รูปแบบที่มีการศึกษามากที่สุดสองรูปแบบคือ K1 (ฟิลโลควิโนน) และ K2 (เมนาควิโนน) วิตามินเค 1 พบมากในผักใบเขียว และส่วนใหญ่ใช้โดยตับเพื่อช่วยในการแข็งตัวของเลือด ในทางกลับกัน วิตามินเค 2 พบได้ในอาหารหมักดอง ไข่ ตับ ผลิตภัณฑ์นมจากสัตว์ที่เลี้ยงด้วยหญ้า และเนื้อสัตว์ วิตามินเคมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายมากกว่า โดยเฉพาะในกระดูก หลอดเลือดแดง และเนื้อเยื่ออ่อน

ในขณะที่วิตามินดีช่วยให้คุณดูดซึมแคลเซียมได้ วิตามินเค 2 จะช่วยนำแคลเซียมเข้าสู่กระดูกและฟันของคุณ และออกจากหลอดเลือดแดง หากขาดเค 2 แคลเซียมอาจสะสมในที่ที่ไม่ควรอยู่ นำไปสู่การสะสมของแคลเซียมและแข็งตัวในหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ

หนึ่งในโปรตีนที่สำคัญที่สุดที่ถูกกระตุ้นโดยวิตามิน K2 คือโปรตีนเมทริกซ์กลา (MGP) ซึ่งช่วยป้องกันการสะสมของแคลเซียมในผนังหลอดเลือดแดง อีกชนิดหนึ่งคือออสทีโอแคลซิน ซึ่งช่วยสนับสนุนการรวมตัวของแคลเซียมเข้ากับเมทริกซ์ของกระดูก โปรตีนทั้งสองชนิดนี้ต้องอาศัยวิตามิน K2 ที่เพียงพอจึงจะถูกกระตุ้นและทำหน้าที่ของมันได้

ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้คนนิยมรับประทานนัตโตะ (อาหารหมักจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยวิตามินเค 2) พบว่าอัตราการเกิดกระดูกหักและการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือดแดงต่ำกว่าประเทศตะวันตกอย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาในระยะยาวแสดงให้เห็นว่าการรับประทานวิตามินเค 2 เป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน โรคหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็งบางชนิด

วิตามินเค 2 ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมองอีกด้วย การค้นพบใหม่ชี้ให้เห็นว่าวิตามินเค 2 อาจช่วยปกป้องเซลล์ประสาทและลดความเครียดออกซิเดชันในสมอง ซึ่งอาจส่งผลต่อการป้องกันโรคระบบประสาทเสื่อม แม้ว่าจะยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติมในด้านนี้ แต่หลักฐานเบื้องต้นก็มีแนวโน้มที่ดี

อาหารสมัยใหม่มักขาดวิตามินเค 2 โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ตับ หรือไขมันสัตว์แบบดั้งเดิม เกษตรกรรมอุตสาหกรรมก็มีบทบาทเช่นกัน สัตว์ที่เลี้ยงด้วยอาหารที่มีธัญพืชเป็นหลักจะผลิตวิตามินเค 2 ในนม ไข่ และเนื้อสัตว์น้อยกว่าสัตว์ที่เลี้ยงแบบปล่อย

เพื่อสนับสนุนการได้รับวิตามินเคอย่างเหมาะสม:

รับประทานผักใบเขียวทุกวันเพื่อรับวิตามิน K1 รับประทานอาหารหมักดอง เช่น นัตโตะ มิโซะ หรือซาวเคราต์ดิบ เลือกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่เลี้ยงด้วยหญ้า โดยเฉพาะไข่แดง ชีส และเนย อย่ากลัวไขมัน เพราะวิตามิน K ละลายในไขมันและดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อรับประทานร่วมกับไขมันดี

วิตามิน K1 และ K2 ทำงานร่วมกัน แต่ K2 มักจะขาดหายไป กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการมุ่งเน้นไปที่อาหารจริงที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ที่ Real Food เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้าและผลิตอาหารหมักดองโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิม เพื่อให้ร่างกายของคุณได้รับสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริงเพื่อความแข็งแรงและการปกป้อง

สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารจากพืช ควรทราบว่าการได้รับ K2 อาจเป็นเรื่องยากหากไม่ได้รับอาหารเสริม เว้นแต่จะรับประทานอาหารจากพืชหมักเป็นประจำ มิโซะ นัตโตะ และซีอิ๊วขาวบางชนิดสามารถช่วยได้ แม้ว่าปริมาณจะแตกต่างกันมากก็ตาม

สรุป: วิตามินเคเป็นสิ่งจำเป็นต่อสมดุลแคลเซียม ความแข็งแรงของกระดูก การปกป้องหลอดเลือดหัวใจ และอาจรวมถึงสุขภาพสมองด้วย แต่กลับถูกมองข้าม การกลับมารับประทานอาหารธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหาร จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น และหลีกเลี่ยงความเสียหายเงียบๆ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

แม้ว่าวิตามินเคอาจไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่ก็สมควรได้รับตำแหน่งศูนย์กลางของวิถีชีวิตด้านอาหารจริง

กลับไปยังบล็อก